• You are here:
  • Home »

ข้อคิดดีดีจากน้ำท่วมคราวนี้

  • พฤศจิกายน 3, 2011

– อดคิดไม่ได้ว่า เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่คราวนี้ สาเหตุหนึ่ง เป็นเพราะมนุษย์รุกล้ำธรรมชาติมากเกินไป และ ธรรมชาติก็กำลังเอาคืนกับมนุษย์แบบ ‘จัดหนัก’ และ ‘จัดเต็ม’ (ทุกพื้นที่)

– อดคิดไม่ได้ว่า หลังน้ำลด และกลับเข้าสู่ภาวะปรกติแล้ว จะทำอย่างไรดีกับจำนวนกระสอบทรายจำนวนอภิมหามหึมา นับล้านๆกระสอบ…ฤ จะเอาไว้ใช้ปีหน้า?

– หลายๆ คนที่เคยสงสัยว่า สัตว์ประเภท กบ เขียด ปาด คางคก อึ่งอ่าง มันมีชีวิต และอาศัยอยู่กันได้อย่างไร ในระบบนิเวศน์ที่ชื้นแฉะ เปียกๆ ปอนๆ….ยามนี้ ความสงสัยนั้นได้ถูกเฉลยแล้วเมื่อตนเองก็ได้กลายเป็น ‘มนุษย์ครึ่งบก ครึ่งน้ำ’

– เห็นแต่ป้ายบอกทาง ‘ทางไปสนามบินน้ำ นนทบุรี’ สงสัยกันมานมนานว่ามันเป็นสนามบินหรืออย่างไร แต่ก็ไม่เคยเห็นเครื่องบิน มันบินขึ้น-ลง แม่น้ำซักที…แต่ครานี้ ที่สนามบินดอนเมือง ก็อยากให้ทางการท่าอากาศยานฯ จัดเที่ยวบิน รอบปฐมฤกษ์ ให้ดูเป็นขวัญตาซักรอบ….ณ สนามบินน้ำดอนเมือง

– จะมีพลเรือนซักกี่คนในประเทศนี้ ที่จะได้ขึ้น หรือขี่ยุทธภัณฑ์ทางทหาร (ยกเว้นวันเด็ก)…บัดเดี๋ยวนี้ โอกาสนั้นได้มาถึงท่านแล้ว จะรถยกสูงอย่าง จีเอ็มซี รถสงครามฮัมวี่ รถลำเลียงพล หรือบางคนได้ขึ้น เฮลิคอปเตอร์ทหาร และบางคนไปไกลกว่านั้น กับเครื่องบิน C-130….โอกาสแบบนี้ ไม่ได้มีกันง่ายๆ (คุณได้ใช้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ และที่สำคัญมัน ‘ฟรี’)

– เป็นอะไรที่ตลกไม่ออก กับเรื่องที่ พื้นที่ติดคลองตอนบน น้ำท่วมจะเป็นจะตาย ท่วมกันเป็นแรมเดือน แต่พื้นที่ติดคลองตอนล่าง ยังแห้งสนิท ไม่มีน้ำให้สูบออก และต้องหยุดให้บริการเรือโดยสาร เพราะไม่มีน้ำให้เรือแล่น…มันตื้นเกินไป เรือแล่นไม่ได้…บริหารได้เยี่ยมจริงๆ กด Like ให้เลย มูมู่

– และก็เป็นอะไรที่ตลกไม่ออก กับมนุษย์ ‘พันธุ์กรุงเทพ’ กับอาการ ตื่นตระหนก ตกใจ กระต่ายตื่นตูม (BIG PANIC) พอรู้ว่าน้ำกำลังจะเข้าท่วมกรุงเทพฯ ก็พากันแห่ไปซื้อเสบียงอาหารกักตุนกันไว้ ซื้อๆๆๆๆ ตุน ๆๆๆๆ ซื้อแหลกจนเป็นสาเหตุให้สินค้าขาดแคลน ซื้อแบบกะว่า น้ำจะท่วมนานถึง 3 เดือน แบบออกจากบ้านไปไหนไม่ได้……แต่พอถูกตัดไฟแค่ 2-3 วัน ก็ออกอาการจะเป็นจะตาย พากันแห่หนีออกไปอยู่ต่างจังหวัด….แล้วก็ไม่ได้เอา มาม่า ปลากระป๋อง ของที่ซื้อตุนไว้ไปด้วย ปล่อยกองไว้เป็นภูเขาเลากาอยู่ที่บ้าน…มันเป็นซะอย่างงั้น

– พวกเด็กแว้น+สก๊อยขาลาย นับร้อย นับพันได้หายไปจากท้องถนนที่มีแต่น้ำ….แต่ถ้าจะลงแดงตายเสียให้ได้ ถ้าไม่ได้แว้นๆๆ ก็บอกพ่อเงินแสน แม่เงินล้าน ออกเจ็ทสกี แต่งท่อไอเสีย เลียกระบอกสูบ ชุบโครเมี่ยม จัดมาอย่าให้เสีย แข่งกันคนละเลนก็ยังได้ จัดไปเลยที่ ถนน เอ้ย คลองวิภาวดีรังสิต รับรองได้ว่าจะไม่มีตำรวจไปดักจับอย่างแน่นอน….สำหรับพวกนี้ คำว่า ‘จิตอาสา’ สะกดกันไม่ค่อยจะเป็น และถ้ารวมตัวกันได้นับร้อย นับพันเช่นนี้….ชักชวนกันออกไปช่วยกันกรอก กระสอบทราย จะดีกว่าไหม….ยามนี้ประเทศชาติต้องการ ‘แรงงานอย่างคุณ’

– ชาว กทม.ที่ไม่เคยไปเที่ยวสวนสยาม ยามนี้ก็พากันได้ไปแล้วอย่างถ้วนหน้า ทั้งในบ้าน นอกบ้าน…ทะเลกรุงเทพ

– สยามประเทศ ณ เวลานี้ เวลามีปัญหาระหว่างกลุ่มบุคคล 2 กลุ่ม มึงท่วม กูไม่ท่วม มึงท่วมน้อย กูท่วมมาก เถียงกันไป เถียงกันมา…สุดท้าย ร้องหา ‘สรยุทธ’ มาช่วยเป็นตัวกลางตัดสิน (เมินเครื่องแบบสีกากี ซะงั้น)

– เพิ่งจะรู้ว่า ในโลกกลมๆ ใบนี้ ประเทศไทย คือประเทศหนึ่งเดียวที่เพาะเลี้ยง และส่งออกจระเข้ มากที่สุดในโลก โดยมีการส่งออกกว่า 500,000 ตัว/ปี ส่วนมาตรการดูแลป้องกัน (การหลุดรอดออกไป ยามเกิดอุทกภัย)…อยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐาน และนั่นเป็นสาเหตุ ของการ ‘เพ่นพ่าน’ ไปทั่ว อยู่ทุกวันนี้

– และเจ้าของฟาร์มจระเข้ ได้ออกมาชี้แจง และให้คำรับรองผ่านสื่ออย่างเป็นทางการว่า จระเข้ตัวเล็กๆ ความยาวจากหัว จรดหางไม่เกิน 2 เมตร จะไม่มีนิสัยดุร้าย อาจจะมีการกัดหรืองับ เล่นๆ แบบสุนัข บ้างเท่านั้น…..บร๊ะเจ้า ขาตูขาดไปข้างนึงแล้ว…มันงับเล่นๆ ใช่มั้ย!

– คงจะตลกพิลึก ถ้าวันใดวันหนึ่ง มีจระเข้ขึ้นไปนอนอ้าปาก อาบแดดยามเช้าอย่างสบายใจเฉิบ ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เซ็นเตอร์พอยท์ ลานเซ็นทรัลเวิลล์

– คนรวย มีฐานะ อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน โครงการแพงๆ เตรียมอาหาร น้ำดื่ม ทุกสิ่ง ทุกอย่าง มีพร้อมสรรพ แต่ทำไมถึงเกิดปรากฏการณ์หนีตาย…ต้องการอพยพออกจากหมู่บ้าน ??? …ฤ เพียงแค่ไม่มีไฟฟ้าใช้…ไม่ได้กินข้าวกินน้ำยังอยู่ได้ ทนได้ แต่ถ้า ไม่ได้โทรศัพท์+อัพเฟสบุ๊ค+lookทวิตเตอร์…นั่น อาจถึงแก่ชีวิต ต้องอพยพหนีออกมา (โฆษณาที่ว่า น้ำกับไฟฟ้า อะไรสำคัญกว่ากัน…คนกลุ่มนี้ ขอเลือกไฟฟ้า)

– ตั้งแต่ยึดอาชีพ เป็นโจรขโมยรถเป็นต้นมา กว่าจะขโมยมาได้แต่ละคัน นั้นแสนยาก ต้องงัดวิชา ท่าไม้ตาย ออกมาใช้เกือบหมด เพื่อต่อสู้กับระบบป้องกันการขโมยรถ และไหนจะการตรวจจับจากกล้อง CCTV ที่มีอยู่ทั่วไปตามท้องถนน ทั้งกล้องจริง กล้องหลอก (หลอกกันเอง)…ก็มียามน้ำท่วมครานี้ล่ะ ที่มีงานเข้าทุกวันทุกคืน มีให้เลือกทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ เยอะมักๆ จอดรออยู่บนสะพาน ทางข้ามทุกพื้นที่

– รัฐบาลบอกให้ประชาชนต้องติดตามรับฟังข่าวสาร ประกาศ การแจ้งเตือนจากทางการอย่างใกล้ชิด….ท่านเล่น ‘ตัดไฟ’ หมดทั้งบาง แล้วจะให้ติดตามจากอะไรล่ะครับท่าน…จะจุดธูปบอกกล่าว ถามข่าวสารท่านไป ก็กลัวว่าท่านจะยุ่ง และไม่มีเวลาจะมาตอบกระทู้ถาม…และท่าน ทำพิธีไล่น้ำได้ ชาวบ้านอย่างพวกเราก็ทำ พิธีแห่นางแมว ขอฝนได้เหมือนกัน…สวนกระแสกันไปเลย

– และถ้าจะมีข่าวสาร ลอยตามลมเข้ามาในหู ก็จะมาจาก ‘เจ้ากรมข่าวลือ’ ภายในหมู่บ้าน….เยอะไปหมด เยอะจริงๆ ลือกันให้แซด สนั่นบาง ทั้งเขื่อนใหญ่แตกแล้ว น้ำกำลังมาสูง 20 เมตร น้ำทะเลตีโต้กลับแม่น้ำเจ้าพระยากลายเป็นซึนามิ น้ำจะท่วมฟ้า ปลาจะกินดาว น้ำท่วมดาวอังคาร ฯลฯ …. เพิ่งจะรู้ว่าอาการ ‘คันหู’ จริงๆแล้วมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

– คนที่อาศัยอยู่ กทม. ส่วนใหญ่เป็นคนมีพื้นเพมาจากต่างจังหวัด มีพ่อ-แม่ ปูย่า-ตายายอยู่ต่างจังหวัด…ร้อยวัน พันปี จึงจะกลับไปเยี่ยมเยียนท่านเหล่านั้นสักครั้ง หรือไม่ก็ต้องรอเมื่อมีโอกาส หรือวันสำคัญๆ…แต่พอ ระดับน้ำภายในบ้านเริ่มสูงขึ้นๆ…อยู่ๆ ก็เกิดอาการ ‘สำนึกรักบ้านเกิด’ ขึ้นมาซะงั้น…แห่กันหนีออกต่างจังหวัด กลับบ้านเกิด รถติดยาวเหยียด

– เคยได้ยินมานานนม ทั้งคำพูด ทั้งเนื้อเพลง แต่ ก็เพิ่งจะมาเข้าใจถึงแก่นแท้ ก็น้ำท่วมครานี้….’อ่วมอรทัย’

– เคยพูดเอาไว้ในตอนแรกว่า ถ้าจับแก็งค์แมวน้ำ หรือโจรแมวน้ำได้ให้ ‘จับขังลืม’ กันไปเลย…เข้าใจครับว่า มันเป็นแค่คำขู่ ท่านไม่กลัว และยังออกตระเวน งัด ขโมยทรัพย์สิน ซ้ำเติมกันไม่หยุดหย่อน ฉะนั้น จึงขอปรับแนวคิดมาสู่ฝ่ายตั้งรับอย่างพวกเราชาวบ้าน โดยที่ ‘ถ้ากูจับมึงได้’ … มึงเจอ ‘ไทยรุม’ (จัดเต็ม) ก่อน แล้วค่อยส่งตำรวจทีหลัง

– มันจะเป็นสถานการณ์ที่ดีขึ้นอีกมาก ถ้ามี ‘รถและเรือดับเพลิง’ นับพันๆ คัน พันๆ ลำ เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในภาวะน้ำท่วมเช่นนี้…แต่พวกมันกลับพากันจอดแช่ ‘ตายซาก’ อยู่ท่าเรือแหลมฉบัง จอดเป็น ‘ค่าโง่’ ประจานอะไรซักอย่าง กับมนุษย์ผู้เป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้….โอววว แม่เจ้า

– และยังไม่รู้สึกสำนึกสำหรับ พวกที่เอาเรือที่ ‘เขาบริจาคมาให้’ หรือแม้แต่เรือส่วนตัว นำไปประกอบอาชีพ รับ-ส่ง ผู้โดยสารและเก็บค่าโดยสารราคาแพงมหาโหด…พวกเราอย่าไปใช้บริการ และอย่าไปสนับสนุนพวกมัน ให้มันถ่างตา ‘รอ’ ลูกค้าอยู่นั่นล่ะ ดูซิ ถ้าไม่มีลูกค้า มันจะทนอยู่ได้ซักกี่วัน และอย่าลืม ‘จดจำ’ หน้าตา หน้าเลือด ของมันไว้ให้ดี จำให้แม่น หลังน้ำลด….ช่วยกันแบนคนพวกนี้ ให้ออกไปจากสังคมของเรา

– ‘นักฉวยโอกาส’ เป็นคำพูดใช้ตราหน้า พวกที่เอาเปรียบ ซ้ำเติม คนที่เขากำลังเดือดร้อน ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า…และมันเป็นอารมณ์ ที่ต่างขั้วโดยสิ้นเชิง กับคนที่เขามาตั้งร้านอาหาร ให้กินฟรี ดื่มฟรี แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม แต่กับไอ้พวกที่มานั่งขายข้าวกล่อง อยู่ข้างทาง กล่องละ 60-70 บาท น้ำดื่มแพ๊คละเป็นร้อย และอีกสารพัดสิ่ง ตั้งแต่ไข่ไก่ ยันเรือพาย มีให้เห็นตามสองข้างทางโดยทั่วไป สนนราคา กะว่าจะหาทุนไปสร้างตึกกันเลย….คุณช่างกล้า และด้านยิ่งนัก…และพวกเราได้จดจำใบหน้า หน้าตา ของพวกคุณไว้แล้ว….แล้วเจอกัน หลังน้ำลด

– สยามประเทศแห่งนี้ มีบรรดาผู้ที่เรียกตนเองอย่างภาคภูมิใจว่าเป็น ผู้มีความรู้ ผู้มีปัญญา และมีอยู่เต็มบ้าน เต็มเมืองไปหมด ดีกรีนักเรียนนอก เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ปริญญาหลายใบ ยาวเป็นหางว่าว ร่ายยาวเรื่องทฤษฎีหลักกลศาสตร์ของไหล ให้พวกเราชาวบ้านฟัง ทุกค่ำ-เช้า………ผลลัพธิ์ ก็อย่างที่เห็นๆ กันอยู่ เถียงกันไป เถียงกันมา ความคิดมึงผิด ความคิดกูถูก ฯลฯ….สุดท้าย ก็บริหารแบบจมโดยทั่วกัน นครสวรรค์ยันกรุงเทพฯ………แต่…..ตาคำ อาชีพทำนา อยู่ที่บ้านหนองอีโก้ง เรียนจบ ป. 2 พูดสอนให้หลานๆ ฟังว่า “น้ำมา ก็ปล่อยให้มันไหลไป แค่ทำทางให้มันไหลไปสู่ที่ต่ำ เหมือนกับที่เวลาฝนตกที่บ้าน แค่ขุดทางน้ำให้มันไหลไปที่ต่ำ เดี๋ยวมันก็ไหลออกไปหมดเอง แต่ถ้ายิ่งไปกั้นมัน มันก็ยิ่งสูง และเมื่อยิ่งสูงก็ยิ่งมีแรงดัน ถ้ามันพังครืนลงมา ก็เดือดร้อนมาก เสียหายมาก”……….ท่านผู้มีความรู้ ผู้มีปัญญา ของบ้านเมืองนี้ เพิ่งจะนึกออก หรืออย่างไรมิทราบได้…เร่งพากันเจาะช่องทางน้ำไปสู่ที่ต่ำตามแนวทฤษฎีบ้านๆ อย่างตาคำ ผู้มีความรู้แค่ ป. 2

……………………

……………………

* และสุดท้าย…ท่านครับ…’เขื่อน’ เขามีเอาไว้เพื่อประโยชน์ในการช่วยชะลอน้ำในฤดูน้ำหลาก ไม่ให้น้ำไหลบ่า พรวดพลาด หลากเข้าท่วมบ้านเรือน เรือกสวนไร่นา และอีกทั้งยังประโยชน์ในการกักเก็บน้ำนั้น เพื่อเอาไว้ใช้ในฤดูแล้ง….แต่….ณ ดินแดนประเทศสาระขันธ์แห่งนี้….เขื่อน กลับกลายเป็นต้นตอ เป็นต้นเหตุแห่ง ‘อภิมหาพญาอุทกภัย’….พื้นที่ใต้เขื่อนทั้งหลายทั่วประเทศ กลับกลายเป็นพื้นที่ๆได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมวิปโยคเต็มๆ….พวกเราชาวบ้านจะไม่ถามว่า ท่านบริหารจัดการ ปริมาณน้ำเข้า-ออก เขื่อนอย่างไร ใครกั๊กประตูน้ำ ใครเล่นกับเวลา ใครขอรอให้ได้เกี่ยวข้าวก่อน ฯลฯ…แต่…อยากจะถามท่านเพียงคำถามเดียวว่า ‘ท่านรู้สึกอย่างไร’ หลังจากที่ได้เห็นความทุกข์ยาก ลำบากแสนเข็ญ อย่างแสนสาหัสที่กำลังเกิดขึ้นกับพี่น้องชาวไทยอยู่ ณ เวลานี้….สื่อมวลชน พากันเรียกท่านว่า ‘ไอ้โม่ง’ แต่พวกเราชาวบ้านไม่รู้หรอกว่า ไอ้โม่งที่ว่า คือใคร ชื่ออะไรบ้าง แต่พวกเรามีความมั่นใจว่าไอ้โม่งกลุ่มนี้คือ คนไทย ชาติเชื้อไทย เหมือนอย่างพวกเรา….ท่านทำได้ลงคอกับพี่น้องร่วมชาติ….เลือดเย็นจริงๆ ครับท่าน

About the Author admin

Leave a Comment: